ทาสแมวหลายคนคงพบเจอกับปัญหากลิ่นของฉี่แมวที่คละคลุ้งอยู่ทั่วบริเวณบ้าน

ซึ่งหลายคนอาจสงสัยว่าทำไมฉี่หมาถึงกลิ่นแรงน้อยกว่าฉี่แมว ทั้ง ๆ ที่อาหารการกินต่าง ๆ ก็คล้ายกับหมา ดังนั้นเราจะพาไปรู้จักกับฉี่แมวว่าทำไมมันถึงเหม็นมาก และเราจะสามารถกำจัดกลิ่นได้อย่างไร ไปดูกันเลย

หลาย ๆ คนอาจจะไม่รู้ว่าในฉี่แมวประกอบด้วยสารหลายอย่าง เช่น กรดยูริค อิเล็กโทรไลท์ สารพิษที่ถูกขับออกมา และยูเรีย ซึ่งสาเหตุของกลิ่นหลัก ๆ ก็มาจากยูเรีย เมื่อฉี่แมวสัมผัสกับแบคทีเรียในอากาศ ก็จะถูกย่อยสลายเป็นแอมโมเนีย ซึ่งมีกลิ่นที่ฉุนมาก ยิ่งทิ้งไว้นาน กลิ่นก็ยิ่งแรง และยิ่งกว่านั้น เมื่อฉี่แมวกลายเป็นแอมโมเนียกลิ่นฉุนแล้ว หากทิ้งไว้นานขึ้นไปอีก แบคทีเรียจะเจริญเติบโตและปล่อยสารที่เรียกว่า mercaptans ซึ่งเป็นสารตัวเดียวกับที่มีในกลิ่นเหม็นของสกั๊งค์ แต่ฉี่ของแมวตัวผู้กลิ่นจะแรงกว่าแมวตัวเมีย เนื่องจากสารเทสโทสเตอโรน หรือฮอร์โมนเพศผู้ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้กลิ่นฉี่รุนแรงมากขึ้น ตามธรรมชาติของแมวตัวผู้จะใช้กลิ่นในการแสดงอำนาจในอาณาเขตของตัวเองและดึงดูดตัวเมียอยู่แล้ว ฉี่แมวที่มีกลิ่นแรงเพราะฮอร์โมนก็มีไว้เพื่อแสดงอาณาเขตและดึงดูดตัวเมียด้วยเหมือนกัน

วิธีกำจัดกลิ่นฉี่แมวมีทั้งหมด 7 วิธีก็คือ…

1.น้ำหมักชีวภาพ

นอกจากน้ำหมักชีวภาพจะช่วยปรับสภาพดินเพื่อการเกษตรได้แล้ว น้ำหมักยังสามารถช่วยกำจัดกลิ่นอึและฉี่แมวได้อีกด้วย ขั้นตอนแรกคือเราต้องทำความสะอาดและเก็บสิ่งปฏิกูลให้หมดก่อน จากนั้นนำน้ำหมักแบบไม่ผสมน้ำเปล่า มาฉีดพ่นให้ทั่วบริเวณนั้น ทิ้งไว้ 1-2 ชั่วโมงแล้วล้างออก นำหมักจะช่วยให้กลิ่นของอึและฉี่แมวค่อย ๆ หายไป

2.  น้ำยากำจัดกลิ่นทำขึ้นเอง

สูตรนี้เหมาะสำหรับกำจัดกลิ่นฉี่แมวในบ้านด้วยของที่มีในบ้าน โดยเริ่มจากผสมน้ำส้มสายชูและน้ำเปล่าในปริมาณที่เท่า ๆ กันเทใส่ขวดสเปรย์ แล้วฉีดไปตรงจุดที่แมวฉี่ไว้ ซับออกด้วยทิชชู ทำซ้ำอย่างนี้ประมาณ 2-3 ครั้ง แล้วใช้ไดร์เป่าให้แห้ง ต่อมานำเบกกิ้งโซดาโรยกลบรอยฉี่แมวให้ทั่ว แล้วผสมไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เพียงแค่ 1 ส่วน 4 ถ้วยตวงกับน้ำยาล้างจาน 1 ช้อนชา ผสมให้เข้ากันแล้วเทใส่ขวดสเปรย์เพื่อฉีดพ่นลงบนเบกกิ้งโซดาที่โรยเอาไว้ ใช้แปรงขัดเบา ๆ และปล่อยทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วปิดท้ายด้วยการใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดเศษเบกกิ้งโซดาที่โรยไว้ให้หมด เพียงเท่านี้ก็เรียบร้อยแล้ว

3.  น้ำส้มสายชูผสมน้ำร้อน

เราสามารถเอาน้ำสายชูมาประยุกต์เป็นสูตรดับกลิ่นได้หลากหลาย เช่นเดียวกับสูตรนี้เลย โดยการนำน้ำส้มสายชูมาผสมกับน้ำร้อนแบบเดือดให้เข้ากัน จากนั้นก็นำไปเทราดตรงบริเวณที่แมวมาฉี่ทิ้งไว้ แต่ก่อนราดส่วนผสมอย่าลืมเก็บทำความสะอาดอึแมวให้เรียบร้อยก่อน เมื่อราดลงไปแล้ว น้ำส้มสายชูและน้ำร้อนจะช่วยทำความสะอาดไปพร้อม ๆ กับควันระเหยที่ช่วยดับกลิ่น

4.  เบกกิ้งโซดาผสมน้ำฉีดไล่กลิ่น

หากใครที่ไม่ชอบกลิ่นเปรี้ยวของน้ำส้มสายชู ขอแนะนำให้ผสมเบกกิ้งโซดากับน้ำเปล่าก็จะดีกว่า ให้กะดูปริมาณให้เข้มข้นพอสมควร ผสมให้เข้ากันดีแล้วก็เทใส่ขวดสเปรย์ เพื่อนำไปฉีดพ่นบริเวณที่แมวเคยมาอึและฉี่บ่อย ๆ เพียงเท่านี้กลิ่นฉุนจากของเสียน้องแมวก็จะหายไป หรือจะโรยกลบของเสียไปก็ช่วยได้เหมือนกัน

5.  กากกาแฟโรยดับกลิ่น

หากที่บ้านพอจะมีกากกาแฟสดเหลืออยู่บ้าง หรือถ้าไม่มีก็ลองขอซื้อตามร้านกาแฟดูเลยก็ได้ แล้วให้นำกากกาแฟมาผสมกับผิวเปลือกส้ม นำไปกลบไว้ในที่ที่แมวชอบมาฉี่หรืออึ ก็จะช่วยดับกลิ่นเหม็นได้ แถมยังมีกลิ่นที่ทำให้แมวไม่กลับมาอึที่เดิมด้วย

6.  ลูกเหม็นดับกลิ่นเหม็น ๆ จากอึแมว

แม้จะชื่อว่าลูกเหม็น แต่คุณสมบัติมันกลับโดดเด่นเกินชื่อเลย เพียงแค่นำลูกเหม็นมาบดให้ละเอียดแล้วผสมกับน้ำเปล่าให้เข้ากัน นำไปราดบริเวณที่แมวชอบมาอึทิ้งไว้ เพียงเท่านี้กลิ่นเหม็น ๆ กวนจมูกก็จะหายไป แถมยังไล่ไม่ให้แมวเข้ามาอึได้อีกต่างหาก แต่ต้องระวังอย่าผสมให้กลิ่นลูกเหม็นฉุนแรงจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้เราหายใจไม่สะดวกเอาได้

7.  ดินปลูกต้นไม้ดับกลิ่นได้

แถมปลูกต้นไม้ต่อได้เลย ถ้าวิธีอื่นไม่ได้ผล ลองกำจัดด้วยแบบธรรมชาติดูกันบ้าง ให้หาดินทรายที่เอาไว้ปลูกต้นไม้มาโรยกลบอึแมวให้ทั่ว กลิ่นก็จะหายไป แต่ถ้าไม่อยากให้แมวเข้ามาอึที่เดิม ๆ อีก ให้นำดินมาลงเยอะหน่อย แล้วหาต้นไม้ที่มีกลิ่นหอมมาปลูกไว้ตรงนั้นไปเลย เพราะนอกจากจะช่วยกำจัดกลิ่นและป้องกันไม่ให้แมวมาอึซ้ำได้แล้ว ยังได้ที่ปลูกต้นไม้สวย ๆ เพิ่มอีกต่างหาก

นี่ก็คือวิธีกำจัดกลิ่นฉี่และอึแมวทั้ง 7 วิธีที่เราสามารถทำได้ง่าย ๆ

โดยที่ไม่ต้องไปเสียเงินซื้อสเปรย์สำหรับกำจัดกลิ่นเลยล่ะ แต่ถ้าหากใครที่ต้องการความสะดวกสบายและไม่ได้ซีเรียสเรื่องค่าใช้จ่ายก็สามารถซื้อมาใช้ได้เลย รับรองว่าปัญหากลิ่นฉี่และอึแมวที่กวนใจจะหายไปแน่นอน