ย้อนกลับ
SHARE

ฤดูฝนล้างรถยนต์อย่างถูกวิธี เพื่อไม่ให้เป็นรอยขีด

โพสเมื่อ 25 พฤษภาคม 2022, 06:23

หน้าฝนแบบนี้แล้ว เรื่องของคราบสกปรกต่าง ๆ ที่มาจากการลุยน้ำ ลุยฝน ลุยโคลน

ของรถยนต์ของคุณนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยแหละ ไม่ว่ายังไงก็ต้องมีโดนอย่างแน่นอน แค่จอดไว้ก็มีสิทธิที่จะโดนจากการสาดของพายุฝนที่แรง


ล้างรถด้วยตัวเองมีข้อดีอย่างไร?

          การล้างรถด้วยตัวของคุณเองนั้น อย่างแรกเลยก็คือ คุณจะได้เห็นจุดต่าง ๆ หรือสภาพรถของคุณได้อย่างชัดเจนว่าเป็นอย่างไรบ้าง เพราะบางที ในบางจุดถ้าไม่สังเกตจริง ๆ จะไม่รู้เลยว่ามีรอยนั่นนี่อยู่ ไปร้านอัดฉีดต่าง ๆ เขาก็แค่ล้างรถให้คุณเท่านั้น ไม่ได้มาบอกว่าจุดนั้นจุดนี้เสียหาย และอีกอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดเลยก็คือ ไม่เปลืองเงินล้างรถ นั่นเอง การล้างอัดฉีดแต่ละครั้งจะเสียเงินประมาณ 150 บาทเป็นต้นไป ซึ่งถ้าเดือนนึง คุณล้างทุกอาทิตย์ ก็เสีย 600 บาทต่อเดือนเลย ถ้าล้างเอง ค่าน้ำ ไม่เกิน 100 บาท ค่าน้ำยาล้างรถก็แล้วแต่เกรด เริ่มต้น 200 บาท ก็มีให้เห็น แถมล้างได้หลายครั้งด้วยนั่นเอง


          ดังนั้นในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักวิธีการล้างรถอย่างถูกวิธี เพื่อไม่ให้รถที่คุณรักนั้นเป็นรอยจากการล้างที่ผิดวิธี

          1. จอดรถในที่ร่ม

          ไม่ควรล้างรถกลางแดด หรือบริเวณใต้ต้นไม้ ให้จอดรถยนต์ในที่ร่มในโรงรถหน้าบ้าน (แต่ถ้าไม่มีจริง ๆ ก็ล้างที่ไหนก็ได้) และที่สำคัญพยายามอย่าล้างรถกลางแดดจัด ๆ เพราะจะทำให้ผิวรถยนต์ ร้อนและแห้งเร็ว และยิ่งเป็นคนที่ใช้น้ำบาดาลที่มีหินปูนเยอะแล้วด้วย จะทำให้เกิดคราบน้ำบนผิวรถได้มากเลย ทำให้ล้างทำความสะอาดยากขึ้นและเสียเวลาเพิ่มอีกด้วย


          2. เตรียมอุปกรณ์ล้างรถ ให้พร้อม โดยมีอุปกรณ์ที่ต้องใช้ดังนี้

          - น้ำยาล้างรถ

          - ผ้าไมโครไฟเบอร์ 2 ผืน (1 ผืนสำหรับเช็ดตัวรถ อีก 1 ผืนสำหรับ ล้อแม็กรถยนต์)

          - ฟองน้ำสำหรับล้างรถ

          - แปรงขนาดต่าง ๆ เพื่อใช้ล้างในจุดที่ฟองน้ำไม่อาจจะเข้าถึงตามซอกต่าง ๆ


          3. เตรียมผสมน้ำยาล้างรถ

          ทำการผสมน้ำยาล้างรถกับน้ำเปล่าในปริมาณที่เหมาะสมตามอัตราส่วนที่ระบุไว้ข้างขวด และเตรียมถังน้ำเปล่าสำหรับล้างฟองน้ำให้พร้อมด้วย แต่ถ้าหากใครไม่มีน้ำยาล้างรถ สามารถใช้แชมพูสระผมได้ (แนะนำว่าอย่าใช้น้ำยาล้างจาน)


ขั้นตอนการล้างรถอย่างถูกวิธี


          1. ฉีดน้ำเพื่อทำความสะอาด คราบสกปรกต่าง ๆ ที่สามารถหลุดออกได้

ช่วยให้ฝุ่นหรือสิ่งสกปรกที่อยู่บนผิวรถยนต์อ่อนตัวลงก่อนที่จะถูด้วยฟองน้ำ โดยฉีดน้ำทั้งคันไล่จากบนหลังคารถ ลงมาด้านข้างของรถ

          2. ล้างส่วนล้อรถยนต์และตรงบังโคนเป็นอันดับแรก เพราะว่าล้อรถเป็นส่วนที่สกปรกที่สุด ดังนั้นจึงควรจะล้างส่วนล้อรถยนต์ให้สะอาดก่อน เพื่อที่สิ่งสกปรกจากล้อจะได้ไม่กระเด็นไปโดนส่วนผิวรถ และเพื่อป้องกันไม่ให้ผิวของรถแห้งและทำให้เกิดคราบน้ำบนผิวรถได้

          3. เริ่มต้นล้างรถจากบนหลังคารถลงมาเรื่อย ๆ โดยก่อนที่จะเริ่มขัดผิวรถให้แช่ผ้าหรือฟองน้ำล้างรถในน้ำยาที่ผสมไว้แล้วก่อน แล้วค่อยนำมาขัดทำความสะอาดผิวโดยที่ไม่ต้องขัดแรง ๆ เพราะจะทำให้รถยนต์เกิดรอยขีดข่วน รอยขนแมวได้ง่าย

          4. ล้างสิ่งสกปรกออกจากฟองน้ำ หรือผ้าที่ใช้ล้างรถบ่อย ๆ เนื่องจากโอกาสที่จะเกิด รอยขีดข่วน หรือ รอยขนแมวบนผิวรถ มีน้อยกว่า เพราะฟองน้ำล้างรถอาจจะมีเศษฝุ่นเม็ดทรายเล็ก ๆ ติดอยู่ตามรูพรุนของฟองน้ำได้ ดังนั้นหากใช้ฟองน้ำ จะต้องล้างทำความสะอาดฟองน้ำบ่อย ๆ

          5. หลังจากล้างน้ำยาแต่ละส่วนเสร็จ ให้ฉีดน้ำล้างน้ำยาล้างรถออกให้หมด ไม่ควรปล่อยให้น้ำยาล้างรถแห้งบนผิวรถ เพราะจะทำให้เกิดคราบน้ำบนผิวรถ ควรทำแบบนี้ทุกครั้ง เมื่อล้างเสร็จทั้งคันแล้ว ให้ล้างน้ำเปล่าซ้ำอีกครั้ง

          6. ล้างช่วงล่างเป็นลำดับสุดท้าย ด้วยการฉีดน้ำล้างใต้ท้องรถไปมาหลาย ๆ ครั้ง เพื่อนำคราบที่ฝังแน่นตามส่วนต่าง ๆ หลุดออกมาให้มากที่สุด จากนั้นใช้ฟองน้ำชุบน้ำยาล้างรถและถูตามซอกต่าง ๆ เสร็จแล้วล้างด้วยน้ำเปล่า

          7. เช็ดรถให้แห้งด้วย ผ้าไมโครไฟเบอร์ โดยเริ่มต้นจากการเช็ดกระจกก่อน เพราะถ้าหากน้ำแห้งมา กระจกจะถือเป็นส่วนที่เห็นคราบน้ำได้ชัดเจนที่สุดนั่นเอง และหลังจากนั้นก็ค่อย ๆ เช็ดจากหลังคาลงมาข้างรถ และเช็ดล้อรถเป็นอันดับสุดท้าย ซึ่งการเช็ดตัวรถกับล้อรถนั้น ควรที่จะแยกผ้า เพื่อป้องกันเศษทราย ดิน ต่าง ๆ ที่จะทำให้ตัวรถเป็นรอยขนแมว หรือรอยขีดข่วน ยิ่งเปลี่ยนผ้าเยอะเท่าไหร่ยิ่งดี


          เพียงเท่านี้ รถของคุณก็จะสะอาด อีกทั้งยังช่วยลดการเกิดรอยขนแมว หรือรอยขีดข่วนต่าง ๆ จากการล้างได้ด้วยนั่นเอง หลังจากที่ล้างเสร็จ คุณอาจจะลง Wax หรือว่า น้ำยาเคลือบผิวรถยนต์ต่าง ๆ เพื่อให้เงาเฉาและช่วยป้องกันคราบน้ำ เศษฝุ่น เศษหินทราย ต่าง ๆ ที่เข้ามาโดนผิวรถคุณเพื่อไม่ให้เป็นรอยง่ายนั่นเอง ยังไงก็ลองล้างตามที่เราแนะนำ รับรองได้เลยว่า รถคุณจะดูใหม่อยู่เสมอแน่นอน

กำลังโหลดหน้าเว็บ
Line logo